แชทบอท ChatGPT ถูกใช้โดยแก๊งสแกมเมอร์หลอกลวงเหยื่อทั่วโลก (2025)

รอยเตอร์ เผยแพร่บทความด้านลบของ AI เมื่อ ChatGPT ถูกใช้เป็นเครื่องมือช่วยร่างบทสนทนา ในเครือข่ายสแกมเมอร์ หลอกลวงไซเบอร์ข้ามชาติ

ดันแคน โอคินโด ชายหนุ่มวัย 26 ปีจากประเทศเคนยา เปิดเผยประสบการณ์สะเทือนใจ หลังถูกล่อลวงไปทำงานในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เมื่อปีที่ผ่านมา เขาเล่าว่า เดิมทีได้รับการติดต่อจากบริษัทจัดหางานท้องถิ่นซึ่งสัญญางานบริการลูกค้าในกรุงเทพฯ ประเทศไทย ทว่าเมื่อเดินทางไปถึง กลับถูกลักพาตัวและพาข้ามแดนไปยังค่ายหลอกลวงที่ชายแดนพม่า–ไทย

โอคินโดถูกกักตัวอยู่ในคอมเพล็กซ์ชื่อ “เคเคพาร์ก” (KK Park) ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีการคุ้มกันเข้มงวดด้วยอาวุธหนักและถูกสร้างเสมือนเป็นป้อมปราการ เขาเล่าว่าถูกบังคับให้ทำงานในห้องที่เต็มไปด้วยแรงงานอีกหลายร้อยคน โดยทั้งหมดต้องนั่งหน้าคอมพิวเตอร์เพื่อดำเนินการหลอกลวงเหยื่อจากทั่วโลก

สิ่งที่ทำให้เรื่องนี้น่าตกใจยิ่งขึ้นคือ การใช้ ChatGPT ซึ่งเป็นปัญญาประดิษฐ์สาธารณะ มาช่วยเขียนข้อความที่มีความน่าเชื่อถือ เพื่อหลอกล่อชาวอเมริกันให้ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่มีอยู่จริง กลวิธีดังกล่าวถูกเรียกว่า “Pig-butchering” หรือ “หลอกเชือดหมู” ซึ่งอาศัยการสร้างความไว้ใจระยะยาว ก่อนจะกวาดเงินจากเหยื่อไป

โอคินโดเผยว่า เขาต้องปลอมตัวเป็นนักลงทุนชาวอเมริกัน เช่น เกษตรกรเลี้ยงวัวจากรัฐเท็กซัส หรือผู้ปลูกถั่วเหลืองจากรัฐแอละแบมา เพื่อโน้มน้าวตัวแทนอสังหาริมทรัพย์ให้ร่วมลงทุนในคริปโต โดยมีเป้าหมายต้องทำให้เหยื่ออย่างน้อยสองรายหลงเชื่อในแต่ละวัน

OpenAI ผู้พัฒนา ChatGPT ชี้แจงว่า บริษัทมีมาตรการตรวจสอบและป้องกันการใช้งานในทางที่ผิด รวมถึงตัดสิทธิ์ผู้ละเมิด อย่างไรก็ตาม ไม่ได้ให้ความเห็นเพิ่มเติมต่อกรณีของโอคินโด

รายงานยังเผยว่า หากแรงงานถูกบังคับทำงานแล้วไม่บรรลุเป้าหมาย จะถูกลงโทษด้วยการทำร้ายร่างกายหรือการทรมานด้วยไฟฟ้า ในขณะที่หากการหลอกลวงประสบความสำเร็จ บรรดาหัวหน้าจะบังคับให้คนงานเฉลิมฉลองด้วยการตีระฆังหรือตีกลอง

โอคินโดสามารถหลบหนีออกมาได้ในเดือนเมษายน หลังทางการไทยตัดกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ ทำให้ผู้คุมต้องปล่อยตัวแรงงานบางส่วน กระนั้น เขายังเผชิญความยากลำบากทางเศรษฐกิจและการถูกตีตราจากสังคมในบ้านเกิด รวมทั้งยังได้รับการข่มขู่จากเครือข่ายอาชญากรรมที่เชื่อมโยงกับแก๊งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

นอกจากกรณีของโอคินโด ยังมีแรงงานจากพม่าอีกหลายรายที่ยืนยันว่าได้ใช้ ChatGPT ในการดำเนิน “โรแมนซ์สแกม” หรือการหลอกเหยื่อด้วยความสัมพันธ์เชิงชู้สาว พวกเขาเล่าว่า หลังการเปิดตัวสาธารณะของ ChatGPT ในปี 2022 งานหลอกลวงมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการเขียนบทสนทนาหรือบทกวีจีบเหยื่อ ทำให้ผู้ถูกหลอกเชื่อถือมากกว่าเดิม

กรณีดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงมิติใหม่ของการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ไปใช้ในทางที่ผิด และตอกย้ำถึงความท้าทายของหน่วยงานกำกับดูแลและผู้พัฒนาเทคโนโลยี ในการป้องกันไม่ให้ AI กลายเป็นเครื่องมือของอาชญากรรมข้ามชาติ